ชีวิตต่อมาและเสียชีวิต ของ อีริก โลแมกซ์

ด้วยการที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตพลเรือนได้ โลแมกซ์ได้เข้าร่วมราชการอาณานิคมและส่งจดหมายไปยังโกลด์โคสต์(ปัจจุบันคือกานา) จนกระทั่งปี ค.ศ. 1955 ภายหลังจากได้เรียนด้านการจัดการ เขาได้ทำงานให้กับคณะกรรม Scottish Gas และมหาวิทยาลัยสแตรธไคลด์ เขาได้ลาออกในปี ค.ศ. 1982[16]

โลแมกซ์ได้เป็นผู้ป่วยรายแรกของมูลนิธิการแพทย์เพื่อการดูแลผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการทรมาณ ชีวิตในภายหลังของเขาได้รวมถึงการคืนดีกับหนึ่งในอดีตผู้ที่ทรมานเขา ล่ามแปลภาษา ทาคาชิ นากาเซะ ซึ่งมาจากเมืองคูราชิกิ, ประเทศญี่ปุ่น ทาคาชิได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับประสบการณ์ของตัวเขาเองในช่วงระหว่างและหลังสงครามที่มีชื่อเรื่องว่า Crosses and Tigers และบริจาคเงินให้แก่วัดพุทธที่อยู่ใกล้สะพานแห่งนั้นเพื่อชดใช้ในสิ่งที่ได้กระทำลงไปในช่วงสงคราม[17] การพบกันระหว่างทั้งสองคนได้ถูกถ่ายทำเป็นสารคดีที่ชื่อว่า ศัตรู, เพื่อนของฉัน(Enemy, My Friend? (1995)) ที่ถูกกำกับโดย Mike Finlason ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลมากมาย[ต้องการอ้างอิง]

โลแมกซ์ได้เสียชีวิต​ลงเมื่อมีอายุได้เพียง 93 ปี ได้ถูกประกาศโดยสำนักข่าวบีบีซี เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2012 เขาได้เสียชีวิตลงที่เบริก-อะพอน-ทวีดในนอร์ทัมเบอร์แลนด์[18]

แหล่งที่มา

WikiPedia: อีริก โลแมกซ์ http://www.london-gazette.co.uk/issues/38517/suppl... https://www.nytimes.com/2012/10/10/books/eric-loma... https://www.theguardian.com/books/2012/oct/09/eric... https://www.bbc.co.uk/news/uk-scotland-19878770 https://www.independent.co.uk/news/obituaries/eric... https://www.telegraph.co.uk/news/obituaries/milita... https://www.thegazette.co.uk/London/issue/34282/pa... https://www.thegazette.co.uk/London/issue/34387/pa... https://www.thegazette.co.uk/London/issue/35056/su... https://www.thegazette.co.uk/London/issue/37720/su...